วันที่ 6 เม.ย.2566 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้วทั้งหมด 3 ปาก คือ ผู้ต้องหาที่เป็นหัวหน้าฝ่ายรายได้เขตราชเทวี ภรรยา และลูกน้อง ทุกคนยังคงให้การปฏิเสธ ยังให้การไม่เป็นประโยชน์ ปกปิดข้อมูลอยู่
จากการตรวจค้นพบทรัพย์สินรวมกว่า 100 ล้าน พบโฉนดที่ดิน เอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากทั้งอยู่ที่บ้านและบนรถ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และขยายผลต่อไป
ชำแหละ แบ่งส่วยเขตราชเทวี หน.ย่องออกห้องประชุมไปรับเงิน
สอบแล้ว 3 ปาก! ปมหัวหน้าฝ่ายรายได้เขตราชเทวีรับเงินแลกเลี่ยงภาษี
ส่วนเงินที่พบ 6.9 ล้านบาท ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด เพราะเป็นเงินที่พบว่ามีการเบิกถอนออกมาหลังจากจับกุมผู้ต้องหาแล้ว
ส่วนพระพุทธรูป พระเครื่องต่างๆ ที่ตรวจค้นพบที่บ้านของผู้ต้องหา จะเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ เพราะเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น เงินที่มีเกินกว่าข้าราชการหนึ่งคนจะทำได้ ยืนยันว่าจะทำการตรวจสอบให้ครบทุกมิติ ขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ละเว้น
โดยหลังจากนี้ จะทำสำนวนรายงานต่อไปยัง ปปช. ตรวจสอบ ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน ขยายผลและตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป
ย้อนดู การเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน จากการเข้าค้นบ้านพักของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบ้านพักหรู ในจังหวัดนนทบุรีก่อนหน้านี้ เพียงแค่จุดเดียว เจ้าหน้าที่พบทรัพย์สินรวมกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งบ้านหรูมูลค่า 11.7 ล้านบาท ที่ใช้ชื่อลูกชายที่ยังไม่มีรายได้ครอบครอง เงินสด 6.9 ล้าน ที่เพิ่งเบิกหลังเกิดเหตุ 2 ชั่วโมง รถยนต์เลกซัส 1 คัน รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน และข้อมูลเงินหมุนเวียนบัญชีภรรยาราว 40 ล้านบาท
ซึ่งข้อมูลจากตำรวจ ปปป. พบว่า ข้าราชการรายนี้มีพฤติกรรมทุจริตอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากใช้ช่องโหว่ที่สามารถประเมินตัวเลขภาษีโดยวิจารณญาณเรียกรับสินบน เขายังใช้ภาพถ่ายคู่กับรัฐมนตรีคนหนึ่ง นำมาข่มขู่ผู้เสียหาย อ้างว่าต้องเอาเงินสินบนไปส่งรัฐมนตรีคนดังกล่าวด้วย
และตำรวจยังพบ หลักฐานสำคัญเป็น “สมุดบัญชี” ที่ผู้ก่อเหตุเขียนบันทึกรายละเอียดการเรียกรับและปลายทางส่วนแบ่งของเงินสินบนแต่ละครั้งคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ข้าราชการรายนี้ก่อเหตุลักษณะนี้ เนื่องจากได้เบาะแสว่า หลังถูกจับกุมเขาได้สั่งผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นลูกจ้างสำนักงานเขต นำเอกสารราชการไปซุกซ่อนในรถยนต์ คาดว่า เตรียมนำทำลาย
แต่ผู้ต้องหาพยายามให้การปฏิเสธ อ้างว่า ตัวเองถูกกลั่นแกล้ง โดยผู้เสียหายได้ให้เข้าไปตรวจเอกสาร และยื่นถุงกระดาษให้ โดยไม่ทราบว่าด้านในมีเงินสด ส่วนทรัพย์สินที่ถูกตรวจยึดมาวันนี้ อ้างว่าส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่เป็นมรดก ส่วนเงินสดที่เพิ่งเบิก ภรรยาเตรียมเอาไปซื้อที่ดิน เงินในบัญชีภรรยาที่มีจำนวนมากก็ได้มาจากการซื้อขายที่ดินเช่นกัน